10 ตัวอย่างการใช้งานกล้องถ่ายภาพความร้อน Hikmicro

กล้องถ่ายภาพความร้อน (Thermal Imaging Camera) หรือที่รู้จักกันทั่วไปว่าเทอร์โมสแกน (Thermoscan) เป็นเครื่องมือวัดอุณหภูมิพื้นผิวของวัตถุ ไม่เป็นการทำลายวัตถุ เนื่องจากไม่จำเป็นต้องสัมผัสกับวัตถุโดยตรง หลักการทำงานของกล้องถ่ายภาพความร้อนคือการที่วัตถุจะแผ่รังสีอินฟราเรดออกมาผ่านตัวเลนส์ และไปตกกระทบกับตัวรับสัญญาณ และถูกประมวลผลออกมาเป็นภาพถ่ายความร้อน

ประโยชน์ของกล้องถ่ายภาพความร้อน สามารถนำไปใช้ในงานด้านต่างๆได้มากมาย ได้แก่

1. การบำรุงรักษาในโรงงานอุตสาหกรรม (Industrial Maintenance) บางอุตสาหกรรมต้องมีการดำเนินการตลอด 24 ชั่วโมง การหยุดกระบวนการทุกอย่างเพื่อจะทำการบำรุงรักษาเครื่องจักรหรืออุปกรณ์อื่นๆทำให้เสียเวลาอย่างมาก ดังนั้นจึงนำกล้องถ่ายภาพความร้อนเข้ามาเป็นตัวช่วยในการตรวจสอบอุปกรณ์และบำรุงรักษาตามสภาพ (Condition Base Maintenance หรือ CBM) ทำให้ลดค่าใช้จ่ายในการหยุดทำงาน และการบำรุงรักษา เนื่องจากการบำรุงรักษาจะเกิดขึ้นเมื่อจำเป็นเท่านั้น กล้องถ่ายภาพความร้อนช่วยตรวจสอบความร้อนที่มากเกินไปของอุปกรณ์ไฟฟ้า เครื่องจักร ลดความเสี่ยงและอันตรายที่อาจเกิดขึ้น

2. งานสาธารณูปโภค (Utility Work) เช่นระบบจ่ายไฟ กล้องถ่ายภาพความร้อนสามารถช่วยระบุตำแหน่งที่เกิดความผิดปกติของสายไฟ หม้อแปลง เซอร์กิตเบรกเกอร์ สวิตซ์ เป็นต้น ซึ่งเป็นจุดรวมที่จะร้อนขึ้นหากเกิดความผิดปกติ ทำให้วิศวกรสามารถกำหนดเวลาซ่อมแซมได้

3. งานตรวจสอบบ้านและอาคาร (Home Inspections) ผู้ตรวจสอบบ้าน อาคารและคอนโด ต้องพบปัญหาทั้งที่มองเห็นและมองไม่เห็น หนึงในข้อกังวลหลักคือการพบการรั่วไหลของน้ำ การตรวจสอบความชื้นที่มากเกินไปและการค้นหาแหล่งที่มาของการรั่ว หากตรวจสอบแบบปกติอาจไม่สามารถหาสาเหตุเหล่านี้ได้ วัสดุที่เปียกมีแนวโน้มว่ามีความเย็นกว่าวัสดุที่แห้งและกล้องถ่ายภาพความร้อนสามารถแจ้งเตือนผู้ตรวจสอบเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นได้

4. งานรับสร้างบ้าน (Home Building) กล้องถ่ายภาพความร้อนสามารถตรวจหาการรั่วซึมของอากาศ (Air Leak หรือ Air Tightness) คุณภาพอากาศภายในอาคาร (Indoor Air Quality) ความชื้นและสะพานความร้อน (Thermal Bridge) การใช้ประโยชน์จากกล้องถ่ายภาพความร้อนในระหว่างการก่อสร้างทำให้ลดค่าใช้จ่าย ลดการทำงานซ้ำ และช่วยเพิ่มความมั่นใจในคุณภาพ

5. การประปา (Plumbing) ใช้กล้องถ่ายภาพความร้อนเพื่อตรวจสอบปัญหาระบบทำความร้อนบริเวณพื้น เพื่อหาจุดที่ต้องการแก้ไขได้แม่นยำ ไม่จำเป็นต้องรื้อพื้นทั้งหมดเพื่อหาต้นเหตุของปัญหา ประหยัดเวลาและต้นทุนได้อีกด้วย

6. การตรวจสอบแผงโซลาเซลล์ หรือ เซลล์แสงอาทิตย์ หรือ เซลล์โฟโตโวลตาอิก (Solar Panel / Photovoltaic cell) ใช้กล้องถ่ายภาพความร้อนตรวจสอบความบกพร่องในการติดตั้งใหม่และที่ติดตั้งอยู่แล้ว ตรวจจับการสูญเสียพลังงาน ประเมินในสถานที่ก่อนการติดตั้ง ตรวจสอบความปลอดภัยของระบบโซลาร์จากไฟฟ้าลัดวงจร เป็นต้น

7. ตรวจสอบสถานีไฟฟ้าย่อย (Electrical Substation) กล้องถ่ายภาพความร้อนใช้สำหรับดูแลและบำรุงรักษาอุปกรณ์ในสถานีไฟฟ้าย่อย เพื่อป้องกันการเกิดไฟฟ้าลัดวงจร

8. อุตสาหกรรมยานยนต์ (Automotive Industry) ใช้กล้องถ่ายภาพความร้อนในการวิเคราะห์ปัญหาและซ่อมแซมเครื่องยนต์ ปัญหาด้านความร้อนและจุดบกพร่องอื่นๆ 

9. อุตสาหกรรมปิโตรเคมี (Petrochemical Industry) ใช้กล้องถ่ายภาพความร้อนตรวจสอบเปลวไฟในกระบวนการผลิต หรือตรวจสอบระดับของเหลวในถัง

10. อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Industry) มีการใช้กล้องถ่ายภาพความร้อนในการตรวจสอบการผลิตแผ่นวงจรพิมพ์ PCB เนื่องจากกล้องบางรุ่นมีอุปกรณ์เสริมที่เรียกว่า Macro Lens ที่สามารถขยายภาพให้เห็นชิ้นส่วนขนาดเล็กได้อย่างชัดเจน

ปัจจุบันมีกล้องถ่ายภาพความร้อนหลากหลายแบรนด์ให้เลือกอย่างมากมาย ทางบริษัท อินสทรูเม้นท์เอเชีย จำกัด ขอนำเสนอกล้องถ่ายภาพความร้อน แบรนด์ Hikmicro ที่มีขนาดกะทัดรัด ใช้งานง่าย ความละเอียดสูง

Hikmicro เป็นผู้ให้บริการชั้นนำระดับโลกด้านอุปกรณ์และโซลูชั่นการถ่ายภาพความร้อน มีความเชี่ยวชาญด้านการออกแบบ การพัฒนาและการผลิต โดยให้บริการลูกค้ามากกว่า 100 ประเทศทั่วโลก Hikmicro ให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่องในด้านเทคโนโลยีความร้อน และได้รับการรับรองตามมาตรฐาน ISO9001 ผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นของ HIKMICRO ตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าทั้งรายบุคคล เชิงพาณิชย์ อุตสาหกรรม และสาธารณูปโภคทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง

กล้องถ่ายภาพความร้อน แบรนด์ Hikmicro มีจำหน่ายทั้งรุ่นที่เป็นแบบพกพา และแบบใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟน โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ล์